วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

รายงานการศึกษาทางไกล

ความหมาย ความเป็นมา และหลักสำคัญของการศึกษาทางไกล
ความหมายของการศึกษาทางไกล
ความหมายได้มีผู้ให้คำนิยามของการเรียนทางไกล (Distance learning) หรือการศึกษาทางไกล (distance education) ไว้หลายท่านด้วยกันดังนี้
เบิร์ก และฟรีวิน (E.R.Burge and CC Frewin ,1985 : 4515) ได้ให้ความหมายของการ เรียนการสอนทางไกลว่า หมายถึงกิจกรรมการเรียนที่สถาบันการศึกษาได้จัดทำเพื่อให้ผู้เรียนซึ่งไม่ได้เลือกเข้าเรียนหรือไม่สามารถจะเข้าเรียนในชั้นเรียนที่มีการสอนตามปกติได้กิจกรรมการเรียนที่จัด ให้มีนี้จะมีการผสมผสานวิธีการที่สัมพันธ์กับทรัพยากร การกำหนดให้มีระบบการจัดส่งสื่อการสอน และมีการวางแผนการดำเนินการ รูปแบบของทรัพยากรประกอบด้วย เอกสาร สิ่งพิมพ์ โสตทัศนูปกรณ์ สื่อคอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้เรียนอาจเลือกใช้สื่อเฉพาะตนหรือเฉพาะกลุ่มได้ ส่วนระบบการจัด ส่งสื่อนั้นก็มีการใช้เทคโนโลยีนานาชนิด สำหรับระบบบริหารก็มีการจัดตั้งสถาบันการศึกษาทางไกล ขึ้น เพื่อรับผิดชอบจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
โฮล์มเบิร์ก (Borje Holmber, 1989: 127 อ้างถึงใน ทิพย์เกสร บุญอำไพ. 2540 : 38) ได้ ให้ความหมายของการศึกษาทางไกล ว่าหมายถึงการศึกษาที่ผู้เรียนและผู้สอนไม่ได้มาเรียนหรือ สอนกันซึ่ง ๆ หน้า แต่เป็นการจัดโดยใช้ระบบการสื่อสารแบบสองทาง ถึงแม้ว่าผู้เรียนและผู้สอนจะไม่อยู่ในห้องเดียวกันก็ตาม การเรียนการสอนทางไกลเป็นวิธีการสอนอันเนื่องมาจากการแยกอยู่ห่างกันของผู้เรียนและผู้สอน การปฏิสัมพันธ์ดำเนินการผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ คอมพิวเตอร์ และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ
ไกรมส์ (Grimes) ได้ให้นิยามการศึกษาทางไกลว่า คือ "แนวทางทุก ๆ แนวทางของการเรียนรู้จากหลักสูตรการเรียนการสอนปกติที่เกิดขึ้น แต่ในกระบวนการเรียนรู้นี้ครูผู้สอนและนักเรียนอยู่คนละสถานที่กัน " นอกจากนี้ ไกรมส์ ยังได้อธิบายถึงเรื่อง การใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน ผ่านสื่อทางไกล โดยเขาได้ให้นิยามที่กระชัย เข้าใจง่ายสำหรับการศึกษาทางไกลสมัยใหม่ไว้ว่าคือ "การนำบทเรียนไปสู่นักเรียนโดยใช้เทคโนโลยีมากกว่าที่จะใช้เทคโนโลยีนำนักเรียนเข้าสู่บทเรียน" และไกรมส์ยังได้ถอดความของคีแกน (Keehan) ซี่งได้กำหนดลักษณะเฉพาะของการเรียนการสอนทางไกลไว้ ดังนี้คือ
1. เป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ครูและนักเรียนอยู่ต่างถานที่กัน
2. สถาบันการศึกษาเป็นผู้กำหนดขอบเขตและวิธีการในการบริหารจัดการ (รวมทั้งการประเมินผลการเรียนของนักเรียน)
3. ใช้กระบวนการทางสื่อในการนำเสนอเนื้อหาหลักสูตร และเป็นตัวประสานระหว่างครูกับนักเรียน
4. สามารถติดต่อกันได้ทั้งระหว่างครูกับนักเรียนและหรือสถาบันการศึกษากับนักเรียน
วิจิตร ศรีสอ้าน (2529 : 5 - 7) ได้ให้ความหมายของการเรียนการสอนทางไกลว่าหมายถึง ระบบการเรียนการสอนที่ไม่มีชั้นเรียน แต่อาศัยสื่อประสมอันได้แก่ สื่อทางไปรษณีย์ วิทยุกระจาย เสียง วิทยุโทรทัศน์ และการสอนเสริม รวมทั้งศูนย์บริการทางการศึกษา โดยมุ่งให้ผู้เรียนเรียนได้ ด้วยตนเองอยู่กับบ้าน ไม่ต้องมาเข้าชั้นเรียนตามปกติ การเรียนการสอนทางไกลเป็นการสอนที่ผู้ เรียนและผู้สอนจะอยู่ไกลกัน แต่สามารถมีกิจกรรมการเรียนการสอนร่วมกันได้ โดยอาศัยสื่อประสม เป็นสื่อการสอน โดยผู้เรียนผู้สอนมีโอกาสพบหน้ากันอยู่บ้าง ณ ศูนย์บริการ การศึกษาเท่าที่จำเป็น การเรียนรู้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากสื่อประสมที่ผู้เรียนใช้เรียนด้วยตนเองในเวลาและสถานที่สะดวก
สนอง ฉินนานนท์ (2537 : 17 อ้างถึงใน ทิพย์เกสร บุญอำไพ. 2540 : 7) ได้ให้ความหมาย ของการศึกษาทางไกลว่าเป็นกิจกรรมการเรียนสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าเรียนในชั้นเรียนตามปกติได้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเหตุผลทางภูมิศาสตร์ หรือเหตุผลทางเศรษฐกิจก็ตาม การเรียนการสอนลักษณะ นี้ผู้สอนกับผู้เรียนแยกห่างกัน แต่ก็มีความสัมพันธ์โดยผ่านสื่อการเรียนการสอน การเรียนโดยใช้สื่อการเรียนทางไกลนั้น ใช้สื่อในลักษณะสื่อประสม (Multimedia) ได้แก่ สื่อเอกสาร สื่อโสตทัศน์ และ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่นรายการวิทยุ โทรทัศน์ เทปเสียง วีดิทัศน์ และคอมพิวเตอร์
โดยสรุป แล้วการศึกษาทางไกล หมายถึง กิจกรรมการเรียนการสอนที่จัดขึ้นโดยที่ผู้เรียนไม่ จำเป็นต้องเข้าชั้นเรียนปกติ เป็นการเรียนการสอนแบบไม่มีชั้นเรียน แต่อาศัยสื่อต่าง ๆ ที่เรียกว่าสื่อ ประสม ได้แก่ เอกสาร สื่อโสตทัศน์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงสื่อบุคคลช่วยในการจัดการ เรียนการสอน
การศึกษาทางไกลเป็นวิธีการจัดการศึกษารูปแบบหนึ่งที่ใช้สื่อถ่ายทอดเนื้อหาวิชา องค์ความรู้หรือมวลประสบการณ์ต่างๆ โดยที่ผู้เรียนและผู้สอนไม่ต้องมาพบกัน หรือถ้าจำเป็นอาจมีการพบปะกันเป็นโอกาสหรือครั้งคราว โดยมีจุดมุ่งหมายของการพบปะ เพื่อทบทวนหรือซักถามประเด็นปัญหาหรือข้อสงสัยในสิ่งที่เรียนด้วนตนเองไม่เข้าใจ รวมถึงอาจจะเป็นการสรุปหรือทักษะที่สำคัญจากเนื้อหมาวิชานั้นการเรียนรู้ของผู้เรียนจะเน้นการเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นสำคัญ ผู้เรียนสามารถเรียนอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน โดยผู้เรียนจะต้องบริหารการเรียนด้วยตนเอง ภายในเวลาที่สถาบันกำหนด
ความเป็นมาของการศึกษาทางไกล
ความเป็นมาของการศึกษาทางไกลที่จะกล่าวถึงนี้สามารถแยกออกได้ คือในต่างประเทศและ
ในประเทศไทยเพื่อจะได้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
ในต่างประเทศ
การศึกษาทางไกลในต่างประเทศเริ่มต้นจากการเรียนการสอนทางไปรษณีย์สำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกล โดยใช้สื่อเอกสารเกือบทั้งสิ้น โดยใช้ครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ
ในปี คศ.1836 ได้ขยายมาสู่อเมริกาและประเทศอื่นๆในยุโรป
ในปี คศ. 1920 ได้มีการพัฒนาโดยใช้สื่อวิทยุกระจายเสียงเพิ่มเติม
เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศได้มีการพัฒนาและนำมาใช้ควบคู่กับคอมพิวเตอร์ในลักษณะต่างๆ เช่น Internat E-mail เป็นต้น
ในปี คศ. 1961 ประเทศเยอรมันตะวันตกได้ตั้งวิทยาลัยวิทยุโทรทัศน์เพื่อช่วยคนงานให้มีโอกาสศึกษาในระดับที่สูงขึ้น
ในปี คศ. 1964 สหภาพโซเวียตจัดตั้งวิทยาลัยทางไปรษณีย์
ในปี คศ. 1966 ฝรั่งเศสจัดตั้งวิทยาลัยวิทยุกระจายเสียงและโปรแลนด์ได้จัดตั้งวิทยาลัยเทคนิคทางวิทยุโทรทัศน์
การศึกษาทางไกลในประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีจุดมุ่งหมายเพื่อขยายโอกาส ในการเรียนรู้สำหรับประชาชนให้ไปอย่างกว้างขวาง และนำไปใช้จัดการศึกษาในหลายระดับ

ในประเทศไทย
กระทรวงศึกษาธิการได้เริ่มจัดรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2500 ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง 4 (ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ในปัจจุบัน) และทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และหน่วยงานที่ได้ดำเนินการผลิตพัฒนา และเผยแพร่รายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาอย่างต่อเนื่อง คือ ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้จัดผลิตรายการส่งเสริมความรู้ด้านวิชาการ ศิลปวัฒนธรรม อาชีพ ฯลฯ สำหรับนักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป
พ.ศ. 2518 ได้จัดการศึกษาทางไกลอย่างเป็นทางการ ซึ่งสามารถแยกพัฒนาการเป็น 2 ระดับคือ
1.การศึกษาทางไกลในระดับต่ำกว่าอุดมศึกษา
ในปี พ.ศ. 2518 กองการศึกษาผู้ใหญ่ กรมสามัญศึกษา ได้ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา กรมวิชาการ ทดลองการศึกษาทางวิทยุและทางไปรษณีย์ โดยใช้เอกสารและวิทยุกระจายเสียงเผยแพร่รายการในหลักสูตรรวมถึงรายการเพื่อส่งเสริมความรู้ต่างๆ
ในปี พ.ศ. 2519 ได้ทดลองในหลักสูตรการศึกษาผุ้ใหญ่แบบเบ็ดเสร็จ ระดับ 5 ทางวิทยุและทางไปรษณีย์
ในปี พ.ศ. 2530 กรมการศึกษานอกโรงเรียนได้พัฒนาหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนสายสามัญขึ้นโดยแบ่งเป็นระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย
ในปี พ.ศ. 2538 ได้มีการจัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ในลักษณะชุดวิชา พร้อมรายการวิทยุและโทรทัศน์เพื่อศึกษาในรูปแบบของสื่อประสมบูรณาการเผยแพร่โดยใช้ระบบสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมซึ่งจัดออกอากาศเผยแพร่รายการทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเพื่อการศึกษาและสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้โครงการจัดการศึกษาทางไกลของกรมการศึกษานอกโรงเรียน แต่ดำเนินงานที่ผ่านมายังมีอาจให้บริการได้อย่างกว้างขวาง ทั่วทุกกลุ่มเป้าหมาย
2.การศึกษาทางไกลระดับอุดมศึกษา
ในปี พ.ศ. 2477 ได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง โดยรับผู้เรียนแบบไม่จำกัดจำนวนในลักษณะตลาดวิชา ใช้การสอนแบบชั้นเรียนเป็นหลักแต่ก็อนุโลมให้ผู้อยู่ห่างไกลหรือติดภารกิจไม่ต้องเข้าชั้นเรียนสามารถศึกษาด้วยตนเองจากเอกสารคำสั่ง เมื่อถึงกำหนดก็มาสอบ
ในปี พ.ศ. 2514 หมาวิทยาลัยคำแหงมีการจัดชั้นเรียนสำหรับผู้เรียนที่สะดวกจะมาเข้าชั้นเรียน ส่วนที่ไม่สะดวกมาเข้าชั้นเรียนสามารถศึกษาจากเอกสารตำราที่อยู่บ้านแล้วมาสอบตามเวลาที่กำหนด โดยทางมหาวิทยาลัยมีการจัดทำรายการวิทยุและรายการโทรทัศน์เสริมการเรียนอีกทางหนึ่ง
ในปี พ.ศ.2521 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จัดรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาขึ้นในรูปแบบการจัดการศึกษาทางไกลระดับอุดมศึกษา
ในปี พ.ศ.2527 กระทรวงศึกษาธิการ อนุมัติให้ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาจัดตั้งศูนย์ผลิตรายการวิดีโอเทปขึ้น เพื่อให้ผลิตรายการโทรทัศน์ และวิดีโอเทปเพื่อการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายทั้งใน และนอกโรงเรียน รวมทั้งให้ บริการด้านการผลิตรายการแก่หน่วยงานต่างๆ ภายในกระทรวงศึกษาธิการด้วย
พ.ศ. 2529 ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาได้รับมอบหมายจากกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นผู้ประสานงานจัดทำร่างแผนแม่บทโครงการพัฒนาโทรทัศน์ และวิดีโอเทปเพื่อการศึกษา (ศูนย์ผลิตรายการโทรทัศน์ และวิดีโอเทปที่รังสิต)
พ.ศ.2530 ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ภายในกระทรวงศึกษาธิการจัด และผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11
พ.ศ.2537 กระทรวงศึกษาธิการได้พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษา โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารผ่านดาวเทียม ในการจัดการศึกษาทางไกล โดยแพร่ภาพออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) แพร่ภาพด้วยสัญญาณในระบบดิจิตอลในย่านความถี่
Ku-Band

หลักสำคัญของการศึกษาทางไกล
การเรียนการสอนทางไกลสามารถจำแนกลักษณะสำคัญของการศึกษาทางไกลไว้ได้ ดังนี้
1. ผู้เรียนและผู้สอนอยู่ห่างจากกัน การเรียนการสอนทางไกล เป็นรูปแบบการสอนที่ผู้สอน และผู้เรียนอยู่ห่างไกลกัน มีโอกาสพบปะหรือได้รับความรู้จากผู้สอนโดยตรงต่อหน้าน้อยกว่าการ ศึกษาตามปกติ การติดต่อระหว่างผู้เรียนและผู้สอนนอกจากจะกระทำโดยผ่านสื่อต่าง ๆ แล้ว การ ติดต่อสื่อสารโดยตรงจะเป็นไปในรูปของการเขียนจดหมายโต้ตอบกัน มากกว่าการพบกันเฉพาะหน้า
2. เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียน ในระบบการเรียนการสอนทางไกลผู้เรียนจะมีอิสระใน การเลือกเรียนวิชาและเลือกเวลาเรียนตามที่ตนเห็นสมควร สามารถกำหนดสถานที่เรียนของตนเอง พร้อมทั้งกำหนดวิชาการเรียนและควบคุมการเรียนด้วยตนเอง วิธีการเรียนรู้ก็จะเป็นการเรียนรู้ด้วยตน เอง จากสื่อที่สถาบันการศึกษาจัดบริการรวมทั้งสื่อเสริมในลักษณะอื่น ๆ ที่ผู้เรียนจะหาได้เอง
3. ใช้สื่อและเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการบริหารและบริการ สื่อทางเทคโนโลยีการศึกษา ที่ใช้ส่วนใหญ่จะใช้สื่อสิ่งพิมพ์เป็นสื่อหลัก โดยจัดส่งให้ผู้เรียนทางไปรษณีย์ สื่อเสริมจัดไว้ในหลายรูปแบบมีทั้งรายการวิทยุกระจายเสียง รายการวิทยุโทรทัศน์ เทปเสียงประกอบชุดวิชา และวิดีทัศน์ประกอบชุดวิชา สิ่งใดที่มิได้จัดส่งแก้ผู้เรียนโดยตรง สถาบันการศึกษาจะจัดไว้ตามศูนย์การศึกษาต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เรียนได้มีโอกาสรับฟัง หรือรับชม โดยอาจให้บริการยืมได้ นอกจากสื่อดังกล่าวแล้ว สถาบันการศึกษาที่เปิดสอนทางไกลยังมีสื่อเสริมที่สำคัญอีก เช่น สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สื่อ คอมพิวเตอร์ และสื่อการสอนทางโทรทัศน์ฯ เป็นต้น
4. ดำเนินงานและควบคุมคุณภาพในรูปองค์กรคณะบุคคล การศึกษาทางไกลได้รับการยอม รับว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบและวิธีการจัดการศึกษาในประเทศต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น เพราะสามารถ จัดการเรียนการสอน ตลอดจนบริการการศึกษาให้แก่ผู้เรียนได้มากกว่าและประหยัดกว่าทั้งนี้เพราะ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องสัดส่วนครูต่อนักเรียนอาคารสถานที่ ในส่วนคุณภาพนั้นผู้รับผิดชอบจัดการศึกษาทุกคนต่างมุ่งหวังให้การศึกษาที่ตนจัดบรรละจุดมุ่งหมาย และมาตรฐานที่รัฐตั้งไว้ การศึกษาทางไกลได้มีการสร้างระบบและองค์กรขึ้นรับผิดชอบในการพัฒนาหลักสูตตและผลิตเอกสารการ สอน ตลอดจนสื่อการสอนประเภทต่าง ๆ รวมทั้งการออกข้อสอบ ลักษณะเช่นนี้ อาจกล่าวได้ว่าการศึกษาทางไกลมีระบบการควบคุมคุณภาพของการศึกษาอย่างเข้มงวดและเคร่งครัด ความรับผิดชอบในการจัดการศึกษามิได้อยู่ภายใต้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งโดยเฉพาะแต่เน้นการจัดการศึกษาที่มีการดำเนินงานในรุปองค์กรคณะบุคคล ที่สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
5. มีการจัดการศึกษาอย่างมีระบบ กระบวนการเรียนการสอนทางไกลได้รับการออกแบบขึ้น อย่างเป็นระบบ เริ่มจากการพัฒนาหลักสูตรและผลิตเอกสาร ตลอดจนสื่อการสอนจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในด้านเนื้อหา ด้านสื่อ และด้านการวัดและประเมินผล มีการดำเนินงานและผลิตผลงานที่เป็น ระบบ มีการควบคุมมาตรฐานและคุณค่าอย่างแน่นอนชัดเจน จากนั้นจะส่งต่อไปให้ผู้เรียน ส่วนการ ติดต่อที่มาจากผู้เรียนนั้น ผู้เรียนจะจัดส่งกิจกรรมมายังสถานศึกษา ซึ่งหน่วยงานในสถานศึกษาจะ จัดส่งกิจกรรมของผู้เรียนไปตามระบบถึงผู้สอน เพื่อให้ผู้สอนตรวจตามมาตรฐานและคุณภาพการ ศึกษาที่ได้กำหนดไว้
6. มีการใช้สื่อประเภทต่าง ๆ หลากหลาย แทนสื่อบุคคล สื่อที่ใช้แตกต่างกันไปตามเนื้อหา การสอนและการจัดการสอนเป็นการจัดบริการให้แก่ผู้เรียนจำนวนมากในเวลาเดียวกัน ดังนั้นการดำเนินงานในด้านการเตรียมและจัดส่งสื่อการศึกษาจึงต้องจัดทำในรูปของกิจกรรมทางอุตสาหกรรม คือมีการผลิตเป็นจำนวนมาก มีการนำเอาเทคนิคและวิธีการผลิตที่จัดเป็นระบบ และมีการดำเนินงานเป็นขั้นตอนตามระบบอุตสาหกรรม
7. เน้นด้านการผลิตและจัดส่งสื่อการสอนมากกว่าการทำการสอนโดยตรง บทบาทของ สถาบันการสอนในระบบทางไกลจะแตกต่างจากสถาบันที่สอนในระบบเปิดโดยจะเปลี่ยนจากการสอนเป็นรายบุคคลมากเป็นการสอนคนจำนวนมาก สถาบันจะรับผิดชอบด้านการผลิตและจัดส่ง เอกสารและสื่อการศึกษา การประเมินผลการเรียนของผู้เรียน และการจัดสอนเสริมในศูนย์ภูมิภาค
8. มีการจัดตั้งหน่วยงานและโครงสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการสอนและการบริการผู้เรียน แม้ผู้เรียนและผู้สอนจะอยู่แยกห่างจากกันก็ตาม แต่ผู้เรียนก็จะได้รับการสนับสนุนจากผู้สอนในลักษณะ ต่าง ๆ มีการจัดตั้งศูนย์การศึกษาประจำท้องถิ่นหรือประจำภาคขึ้นเพื่อสนับสนุนให้บริการการศึกษา
9. ใช้การสื่อสารติดต่อแบบสองทางในการจัดการศึกษาทางไกล แม้การจัดการสอนจะเป็น ไปโดยใช้สื่อการสอนประเภทต่าง ๆ แทนการสอนด้วยครูโดยตรง แต่การติดต่อระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนก็เป็นไปในรูปการติดต่อสองทาง ซึ่งสถาบันการศึกษาและผู้สอนจะติดต่อกับผู้เรียนโดย จดหมายและโทรศัพท์ ส่วนผู้เรียนก็อาจจะติดต่อกับผู้สอนและสถาบันการศึกษาด้วยวิธีการเดียวกัน นอกจากนี้ทางสถาบันกาารศึกษายังจัดให้มีการติดต่อกับผู้เรียนด้วยการจัดสอนเสริม ซึ่งส่งผู้สอนไปสอนนักศึกษาตามศูนย์บริการการศึกษาประจำจังหวัดตามช่วงเวลาและวิชาที่สถาบันกำหนด
รูปแบบการจัดการเรียนการสอน

1 การศึกษาทางไกลในประเทศไทย
การศึกษาทางไกลนั้นเน้นการศึกษาด้วยตนเองผู้เรียนจะเลือกเรียน และเลือกใช้สื่อที่เหมาะสมกับการ เรียนรู้ของตนเอง ระบบการจัดการศึกษาทางไกล จึงจะต้องมีการจัดการที่เป็นระบบ มีขั้นตอนที่ชัดเจนและมี คุณภาพเป็นที่แน่ใจได้ว่าผู้เรียนจะเกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตามมาตรฐาน ทางวิชาการเช่น เดียวกับการศึกษา ในรูปแบบอื่น ๆ อาจกล่าวได้ว่าการศึกษาทางไกลมีพัฒนาการมาอย่างยาวนานตั้งแต่ พ.ศ.2379 ที่เริ่มมีการให้ปริญญาภายนอกของมหาวิทยาลัยลอนดอน ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาเป็นการสอนทางไปรษณีย์และได้พัฒนา มาใช้สื่อประเภทต่าง ๆ ได้แก่วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ต่อเมื่อมีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเปิดขึ้นในประเทศอังกฤษซึ่งใช้สื่อประสมแล้ว การศึกษาทางไกลก็ได้ขยายแนวความคิดกระจายออกไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก
บทบาทของการศึกษาทางไกลในประเทศไทย
การศึกษาทางไกลเข้ามามีบทบาทในการจัดการศึกษาในประเทศไทย ในราวปี พ.ศ. 2518 โดยแบ่งลักษณะของการพัฒนาการศึกษาออกเป็น 2 ระดับ คือ
1) การศึกษาทางไกลระดับต่ำกว่าอุดมศึกษา ประเทศไทยได้เริ่มนำการศึกษาทางวิทยุ และไปรษณีย์เข้ามาดำเนินการในปี พ.ศ. 2518 โดยกองการศึกษาผู้ใหญ่ กรมสามัญศึกษา ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา กรมวิชาการ (ซึ่งต่อมาได้รวมหน่วยงานเข้าด้วยกัน และจัดตั้งเป็นกรมการศึกษานอกโรงเรียน)
ได้เสนอโครงการวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการศึกษานอกโรงเรียนขึ้น ในการดำเนินงานนั้นมีการทดลองใช้วิทยุกระจายเสียงเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน (กรมการศึกษานอกโรงเรียน 2519,4) ลักษณะของรายการเป็นรายการทั่วไปและรายการการศึกษา โดยรายการทั่วไปจัดให้กับกลุ่มผู้รับชม รับฟังทั้งในเมืองและชนบท ให้บริการความรู้ทั่วไป และส่งเสริมความคิดใหม่ ๆ ในเรื่องการเกษตร ธรรมจริยา ภูมิปัญญา อนามัยและการวางแผนครอบครัว ในส่วนของรายการการศึกษาจัดให้มีหลักสูตรที่แน่นอน มีระบบการลงทะเบียน มีการพบกลุ่มกับวิทยากรประจำกลุ่ม ในระหว่างปี พ.ศ. 2520-2524 ได้ทดลองจัดการศึกษาผู้ใหญ่แบบเบ็ดเสร็จ ระดับที่ 3-4 และกลุ่มสนใจ รูปแบบการจัดนั้นใช้สื่อ 3 ชนิด คือ คู่มือการเรียนรายการวิทยุ และการพบกลุ่มกับครูประจำกลุ่ม ในช่วงแรกใช้สถานีวิทยุกระจายเสียงของท้องถิ่นเป็นหลัก ต่อมาเมื่อกรมประชาสัมพันธ์ได้จัดตั้งวิทยุกระจายเสียงเพื่อการศึกษาขึ้น จึงได้ใช้สถานีวิทยุแห่งนี้กระจายเสียงรายการการศึกษาของโครงการดังกล่าว และในปี พ.ศ. 2519 ได้ทดลองหลักสูตรการศึกษาผู้ใหญ่แบบเบ็ดเสร็จ ระดับที่ 5 ทางวิทยุและไปรษณีย์ขึนด้วย จนถึงปี พ.ศ. 2530 กรมการศึกษานอกโรงเรียนได้พัฒนาหลักสูตรการศึกษาสายสามัญขึ้น แบ่งการศึกษาเป็นระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยมีวิธีเรียน 3 วิธีเรียน คือ วิธีเรียนแบบชั้นเรียน วิธีเรียนด้วยตนเอง และวิธีเรียนทางไกล ซึ่งพัฒนามาจากการศึกษาสายสามัญและการศึกษาทางวิทยุและไปรษณีย์
ก่อนที่จะมีการพัฒนาการศึกษาทางไกลในรูปของโครงการการศึกษาทางวิทยุและไปรษณีย์นั้น ประมาณปี พ.ศ. 2507 ได้มีการทดลองใช้วิทยุโทรทัศน์เป็นสื่อในการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนประถมศึกษาแล้ว โดยจัดรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาและรายการวิทยุขึ้น ให้บริการการศึกษาในระบบโรงเรียน และจัดรายการวิทยุเพื่อการศึกษาขึ้น ให้บริการความรู้แก่ประชาชนทั่วไป ออกอากาศที่สถานีวิทยุศึกษา(ปัจจุบันสังกัดศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษากรมการศึกษานอกโรงเรียน) การศึกษาทางไกลในระดับต่ำกว่าอุดมศึกษาดำเนินการโดยกรมการศึกษานอกโรงเรียนกระทรวงศึกษาธิการ ในปัจจุบันใช้หลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน ระดับประถมศึกษา พ.ศ. 2532 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พ.ศ. 2530 และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย พ.ศ. 2530 ของกระทรวงศึกษาธิการ จะมีสื่อหลักคือแบบเรียนหรือคู่มือเรียน ให้ผู้เรียนศึกษาและทำแบบฝึกหัดด้วยตนเองและใช้รายการวิทยุเสริมความรู้ในแต่ละหมวดวิชา ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เครือข่าย 2 (สวศ. 2) นอกเหนือไปจากสื่อแบบเรียนและรายการวิทยุแล้ว ยังจัดให้ผู้เรียนได้พบกลุ่มซึ่งจะได้พบกับเพื่อนที่เรียนหลักสูตรเดียวกัน ทั้งต่างวัยและต่างอาชีพ เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขวาง มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ดี และจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพและการศึกษาของตน ในการพบกลุ่มจะมีครูประจำกลุ่มช่วยเหลือให้คำแนะนำในการเรียน การทำกิจกรรมร่วมกัน การพบกลุ่มนี้จะพบกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง ผู้เรียนในระดับประถมศึกษาจะได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียน ผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียน 995 บาท ตลอดหลักสูตร และในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายก็จะเสียค่าเล่าเรียน 2,335 บาท ตลอดหลักสูตร ปัจจุบันมีผู้เรียนการศึกษาทางไกลของกรมการศึกษานอกโรงเรียน จำนวน 511,895 คน จำแนกเป็นระดับประถมศึกษาจำนวน 36,214 คน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจำนวน 345,248 คน และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจำนวน 130,433 คน (กรมการศึกษานอกโรงเรียน, มปป., หน้า 1)
2) การศึกษาระดับทางไกลระดับอุดมศึกษา ประมาณปี พ.ศ. 2519 ทบวงมหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้มีการหารือเพื่อพัฒนาการสอนระบบเปิด โดยใช้สื่อการสอนต่าง ๆ ขึ้น และลดระบบการสอนแบบชั้นเรียนลง แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างจริงจัง ต่อมาทบวงมหาวิทยาลัยจึงดำริจะจัดตั้งมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนโดยระบบทางไกลชั้นสูงในปี พ.ศ. 2519 โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะให้การศึกษาและส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง เพื่อให้ประชาชนมีได้โอกาสเพิ่มพูนวิทยฐานะตามความต้องการของสังคม นอกจากนั้นได้ทำการวิจัย ค้นคว้าเพื่อความก้าวหน้าทางวิชาการและเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้บริการทางวิชาการแก่สังคมในรูปการเผยแพร่ความรู้และเพื่อยกระดับคุณภาพของประชาชนโดยทั่วไป มหาวิทยาลัยเปิดแห่งนี้จะให้บริการทางการศึกษา ทั้งประเภทให้ปริญญาและประเภทไม่ให้ปริญญา ซึ่งในการบริการทั่วไป กลุ่มประชาชนเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ที่มีงานทำแล้วและผู้ที่ยังไม่มีงานทำ ซึ่งประสงค์จะเพิ่มพูนความรู้ในระดับปริญญา รวมทั้งการให้การศึกษาแก่ประชาชนทั่วไปในรูปของการศึกษาต่อเนื่อง (มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช,2534: 37) โดยหลักการและวัตถุประสงค์ดังกล่าว รัฐบาลจึงได้จัดตั้งมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชขึ้น ดำเนินการจัดการศึกษาทางไกลสำหรับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา
ปัญหาการจัดการศึกษาทางไกลในประเทศไทย
การจัดการศึกษาทางไกลในประเทศไทยนั้น แม้จะมีพัฒนาการมากกว่าทศวรรษแล้วก็ตาม ความที่เป็นประเทศกำลังพัฒนาซึ่งมีข้อจำกัดทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ทำให้การจัดการศึกษาทางไกล ยังต้องประสบปัญหาหลัก ๆ อยู่ 3 ประการคือ
1) ปัญหาของผู้จัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานของรัฐ การบริหารกิจกรรมจึงดำเนินไปตามระบบราชการที่มีขั้นตอนมากมาย ประกอบกับไม่สามารถจะดำเนินการออกอากาศได้เอง โดยเฉพาะรายการโทรทัศน์ ซึ่งดำเนินงานโดยหน่วยงานที่ใช้ระบบธุรกิจ ทำให้การประสานงานไม่สะดวกนัก ดังจะเห็นได้ว่าการผลิตสื่อไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะใช้ การออกอากาศมีข้อจำกัดในด้านคุณภาพของรายการ รูปแบบรายการและเวลาออกอากาศ
2) ปัญหาของผู้รับบริการ การศึกษาทางไกลเป็นการศึกษาที่ให้อิสระแก่ผู้เรียนมากเป็นพิเศษ ผู้เรียนจะต้องมีวินัยในตนเอง สามารถวางแผนการทำงานและการเรียนไปพร้อม ๆ กันได้ ซึ่งเป็นเรื่องของอุปนิสัยการมีวินัยในตนเอง ฉะนั้น อาจจะทำให้เกิดปัญหาการออกกลางคันของนักศึกษาสูงกว่าปกติ นอกจากนั้นยังประสบปัญหาเกี่ยวกับการรับสื่อของนักศึกษา เช่น การไม่ได้รับเอกสารทางไปรษณีย์ การไม่มีเครื่องรับวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งตารางออกอากาศอาจจะไม่ตรงกับเวลาว่างของนักศึกษาทางไกล ด้วยเหตุนี้ทำให้การจัดการศึกษาทางไกลต้องใช้สื่อประสม (Muti-media) เพื่อให้นักศึกษามีทางเลือกในการเรียนด้วยตนเองจากสื่อทางไกล
3) ปัญหาของตัวสื่อและเครื่องมือสื่อสาร การผลิตสื่อทางไกลไม่ว่าจะเป็นสื่อประเภทเอกสาร ตำราเรียน หรือสื่อประเภทเทคโนโลยีทางการศึกษา จำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลาในการผลิตมาก ตลอดจนต้องลงทุนในด้านงบประมาณในราคาสูง จึงจะได้สื่อที่มีคุณภาพ และจะต้องมีการปรับปรุงบ่อยครั้งให้ทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งหากไม่ดำเนินการเลยหรือใช้สื่อเก่า ๆ อยู่ตลอดเวลาก็จะล้าสมัยและไม่เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้
เครื่องมือการสื่อสารที่จะแพร่กระจายสื่อ เช่น การออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำความรู้ไปสู่กลุ่มเป้าหมายให้ทั่วถึง หากการออกอากาศไม่สามารถครอบคลุมหรือมีจุดบอดบางจุด ประชาชนในจุดนั้นก็จะขาดโอกาสที่จะได้รับความรู้ และข่าวสารข้อมูลที่จำเป็นให้เท่าเทียมกับกลุ่มอื่น ๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประชาชนในจุดนั้น ๆ ด้วย ฉะนั้น ในการลงทุนด้านสื่อทั้งทรัพยากรเงิน วัสดุ และสติปัญญา จึงเป็นเรื่องสำคัญและมักจะเกิดปัญหาอยู่เสมอในด้านคุณภาพและขั้นตอนการผลิต


แนวโน้มการพัฒนาการศึกษาทางไกลในประเทศไทย
ปัจจุบันการศึกษาทางไกลได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ด้วยเหตุผลที่สำคัญหลายประการได้แก่
1) การศึกษาทางไกลให้โอกาสแก่ผู้ที่พลาดโอกาสทางการศึกษา เพราะหลักการของการจัดการศึกษาทางไกล ให้อิสระแก่ผู้เรียนในการเลือกเรียนได้ตามโอกาสที่เหมาะสม ไม่จำเป็นจะต้องเรียนตามข้อจำกัดในระบบโรงเรียน ฉะนั้น ผู้ที่พลาดโอกาสทางการศึกษาไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม สามารถเข้ารับการศึกษาในระบบทางไกลได้
\ 2) การศึกษาทางไกลเป็นการให้การศึกษาที่ถึงตัวผู้เรียนได้อย่างสะดวก เพราะการศึกษาทางไกล ใช้สื่อที่อยู่ในสังคมทุกชนิด เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้สื่อที่มีอยู่รอบตัวในชีวิตในชีวิตประจำวันเป็นสื่อสำหรับการเรียนรู้ โดยเฉพาะสื่อทางสิ่งพิมพ์ วิทยุและโทรทัศน์ การเรียนจากการศึกษาทางไกล จึงมีความยึดหยุ่นและคล่องตัวสำหรับผู้เรียน ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเรียน นอกจากนั้นผู้เรียนยังสามารถเรียนไปขณะที่ทำงานไปด้วย จึงไม่ต้องเป็นภาระที่จะต้องเดินทางไปศึกษาเล่าเรียน นอกเหนือจากไปทำงานปกติแล้ว
3) การศึกษาทางไกลเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนากำลังคน โดยเฉพาะการให้การศึกษาที่เป็นพื้นฐาน ในการประกอบอาชีพในลักษณะของการศึกษาก่อนประจำการ (Presevice training) ซึ่งสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ให้แก่กลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก และการศึกษาทางไกลยังสามารถจัดในระหว่างประจำการ (In-sevice traning) ให้กับกำลังคนในวัยแรงงาน ลักษณะของการศึกษาต่อเนื่องเนื่องได้อีกประการหนึ่ง เพื่แให้ผู้เรียนได้รับความรู้และวิทยาการใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบทางอ้อมให้แก่ผู้สนใจโดยทั่วไปที่รับฟังรายการของการศึกษาทางไกลก็ก็จะได้รับการศึกษา ตามอัธยาศัย ซึ่งจะเกิดประโยชน์ในการพัฒนาอาชีพและการดำรงชีวิตได้อีกทางหนึ่งด้วย
4) การศึกษาทางไกลสามารถตอบสนองความต้องการทางการศึกษาได้มากกว่า การศึกษาในระบบโรงเรียน เพราะการศึกษาทางไกลไม่จำกัดอยู่ในชั้นเรียน ไม่มีสถานศึกษาแน่นอน ผู้เรียนรับสื่อได้มากเท่าใดก็สามารถเรียนได้มากเท่านั้น ในขณะที่การศึกษาระบบโรงเรียนจำเป็นจะต้องจำกัดจำนวนของผู้เรียนทั้ง ๆ ที่ความต้องการทางการศึกษามีสูงมาก การศึกษาทางไกลสามารถให้บริการแก่ผู้ที่ต้องการศึกษาเล่าเรียนได้อย่างเต็มที่ การศึกษาทางไกลจึงสามารถกระจายการให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึง
5) การศึกษาทางไกลสอดคล้องกับหลักการของการศึกษาตลอดชีวิต เพราะหลักการของการศึกษาตลอดชีวิตถือว่าการศึกษาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์ มนุษย์จึงควรได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย การศึกษานับเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้บุคคลปรับตัวเข้ากับสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม สามารถดำรงตนได้อย่างมีความสุข การศึกษาทางไกลสามารถจัดบริการให้การศึกษาในระบบที่ต่อเนื่องกันไปตลอดชีวิตอย่างเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อทางโทรทัศน์ที่เข้ามามีบทบาทในสังคมสูงขึ้น การศึกษาทางไกลย่อมสามารถให้ประโยชน์ได้อย่างทั่วถึงแก่ทุกกลุ่มเป้าหมาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น