วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทาสของเทคโนโลยี

ทาสของเทคโนโลยี
ในยุคโลกาภิวัตน์ เป็นโลกไร้พรมแดนที่การติดต่อสื่อสารอยู่ในวงแคบขึ้น ซึ่งมีวิทยาการ ในการสื่อสารข้อมูลจากอีกฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างรวดเร็วและเห็นความแตกต่างระหว่างอดีตกับปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในปัจจุบันได้มีผู้คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและสนองความต้องการของมนุษย์ไว้อย่างมากมาย เช่น โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์บ้าน คอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีดังกล่าว มีความเกี่ยวข้องกับทุกคนแม้กระทั่งการเรียนการสอนไม่ว่าจะเป็นในระบบหรือ นอกระบบก็ยังใช้เทคโนโลยีเป็นตัวนำในการเรียนการสอน สิ่งเหล่านี้สามารถอำนวยความสะดวกให้เราได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของการติดต่อสื่อสารทำให้เราติดต่อสื่อสารกันได้เร็ว สะดวก และง่าย แต่ถ้าเรามองกันให้ลึกลงไปในสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อเรา เราอาจมองเห็นโทษของมัน เหมือนดาบสองคมก็ว่าได้ หากเรารู้จักใช้โดยระมัดระวังก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ปัญหาที่หนักในตอนนี้คือ การที่วัยรุ่นใช้โทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตกันอย่างไร้ขอบเขต ใช้อย่างบ้าคลั่ง ใช้อย่างไร้สาระ รู้สึกหมกมุ่นกับอินเทอร์เน็ต ใช้เวลากับมันอย่างมากจนลืมเวลาที่จะพักผ่อน ออกกำลังกายหรือพูดคุย ทำกิจกรรมกับคนในครอบครัว คนที่เรารัก หรือบางคนอาจถึง กับผลการเรียนตกต่ำจนไม่อยากเรียนอีกต่อไป
และปัญหาที่เราพบกันบ่อยขึ้นก็คือ การพูดคุยออนไลน์พบกันในโลกไซเบอร์ที่ใช้ในการพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูลได้โดยเห็นหน้าคู่สนทนา เมื่อคุยกันถูกคอกันก็นัดมาพบกัน ตามมาด้วยการล่วงละเมิดทางเพศ การฆาตกรรม การชิงทรัพย์ จนทำให้บางคนถึงกับเสียอนาคตไปเลยก็มี ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่พบมากก็คือ เกมคอมพิวเตอร์ ฟังดูแล้วไม่น่าจะมีพิษสงอะไรมากนัก เพราะเป็นเกมเล่นเฉย ๆ แต่เราจะทราบหรือไม่ว่าเกมคอมพิวเตอร์ได้ส่งผลเสียต่อเด็กวัยรุ่นที่ขาดสติสัมปชัญญะจนเสียผู้เสียคนมามากต่อมากแล้ว เกมก็เหมือนกับของหลาย ๆ อย่างในโลกนี้มีทั้งด้านบวกและด้านลบ ถ้ารู้จักใช้หรือใช้อย่างพอเหมาะพอดีก็จะเกิดประโยชน์ แต่ถ้าไม่รู้จักใช้หรือใช้มากเกินไปก็จะก่อให้เกิดโทษได้ด้วยเหมือนกัน
ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่เราจะเข้ามาให้ความสำคัญ สอดส่อง ดูแลเยาวชนของเราให้ใช้เทคโนโลยีข่าวสารอย่างถูกต้องเหมาะสม สืบค้นและใช้ข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ รู้เท่าทันเทคโนโลยี อย่าให้ ความง่ายที่มากับเทคโนโลยี กลายเป็นเครื่องสร้าง "ความมักง่าย" ให้เยาวชน สร้างนิสัย หนักไม่เอา เบาไม่สู้ ไม่อยากเรียนรู้ ไม่อยากใช้ความคิด จนต้องกลายเป็นคน "โง่ดักดาน" "โง่ถาวร" ไปเลยก็ได้ การใช้เครื่องมือจากเทคโนโลยี ถ้าให้ดีต้องสอนเด็กให้รู้จักใช้กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เลือกที่จะรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์หรือปฏิเสธข้อมูลที่ให้โทษหรือไร้สาระ สื่อมวลชนเองก็ควรรับผิดชอบต่อสังคมโดยการนำเสนอข้อมูลที่สร้างสรรค์ และจรรโลงสังคม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ก็จะกลายเป็นทาส ของคนที่มีจิตใจดี ไม่เห็นแก่ตัวแทนที่จะเป็นนาย หรือเป็นเครื่องทำลาย และปิดกั้นการเรียนรู้ ของมนุษย์ อย่างที่เป็นอยู่มากมาย ในสังคมไทยปัจจุบัน

ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กก็วางระบบไอทีได้

ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กก็วางระบบไอทีได้

ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็กสามารถวางระบบไอทีเอง ได้อย่างเหมาะสมกับขนาดธุรกิจ เพื่อเพิ่มผลิตภาพ ลดค่าใช้จ่าย และรองรับการดำเนินงานของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

1. การกำหนดมาตรฐานของเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์สื่อสาร ที่จะใช้ภายใน องค์การ เพื่อลดค่าใช้จ่าย ด้านการบำรุงรักษา ที่แตกต่างกัน
ควรสั่งซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ จากผู้แทนจำหน่ายรายเดียวกัน โดยเป็นอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานเดียวกัน และสามารถเข้ากันได้กับ อุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ เช่น เครื่องพิมพ์ เมาส์ คีย์บอร์ด นอกจากนี้การใช้ซอฟต์แวร์ หรือยูทิลิตี้ที่มีการทำงานในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เพื่อเก็บการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ จะช่วยให้สะดวกในการซ่อมบำรุงรักษา หรือติดตั้งซอฟต์แวร์ และระบบปฏิบัติการ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ หรือเครื่องที่ถูกฟอร์แมต
2. การสำรองข้อมูลไว้ภายนอกบริษัท
การสำรองข้อมูลในระบบถือเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจ เพราะหากข้อมูลขององค์กรสูญหาย ย่อมจะส่งผล ต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมาก ในธุรกิจขนาดเล็กนั้น มีวิธีการพื้นฐานที่นิยม กันโดยทั่วไปในการสำรองข้อมูลอยู่ 2 วิธี คือ

* การคัดลอกข้อมูลที่สำคัญ ไปไว้ที่ฮาร์ดดิสก์ภายนอก และทำไปเก็บไว้ที่สถานที่ จัดเก็บข้อมูลสำรองที่ปลอดภัย
* การ ใช้บริการสำรองข้อมูลแบบออนไลน์จากผู้ให้บริการ แม้ว่าในธุรกิจขนาดใหญ่นั้น จะใช้การสำรองข้อมูลแบบเทปไว้นอกสถานที่ แต่จะไม่เหมาะกับ ธุกรกิจขนาดเล็ก เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น การสำรองข้อมูลแบบออนไลน์จึงเหมาะสมกับธุรกิจขนาดเล็ก ทั้งในด้านราคา และความสะดวก

3. การใช้ฮาร์ดแวร์ในการรักษาความปลอดภัย ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของ องค์กร
ในธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็ก มักจะไม่ใส่ใจในเรื่องความปลอดภัย ของการเชื่อม ต่ออินเทอร์เน็ตเท่าที่ควร จึงอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายจาก ภัยคุกคามทาง คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีทุกรูปแบบทั้งไวรัสคอมพิวเตอร์ มัลแวร์ รวมถึงแฮกเกอร์ ที่พยายามจะ เจาะเข้ามาในระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบที่มีความสำคัญ เช่น ระบบที่เกี่ยวข้องกับการ เงิน บัตรเครดิต การทำธุรการรมทางการเงินออนไลน์ เป็นต้น

ดังนั้นหากเป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีผู้ใช้งานเครือข่ายภายในตั้งแต่ 20-30 คนขึ้นไป ก็ควร
จัด หาไฟร์วอลล์ที่เป็นฮาร์ดแวร์มาติดตั้ง ส่วนธุรกิจขนาดเล็ก ควรใช้ไฟร์วอลล์ ที่เป็นซอฟต์แวร์ ซึ่งจะประหยัดกว่า นอกจากนี้ยังจะต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์ และมัลแวร์ ควบคู่กันด้วย รวมถึงการกำหนดรหัสผ่าน ที่ยากต่อการคาด เดา การกำหนดให้เปลี่ยนรหัสผ่าน ใหม่ตามระยะเวลาที่กำหนด และที่สำคัญ จะต้องทำการปิดการเชื่อมต่อ อุปกรณ์เชื่อมต่อ เข้าสู่เครือข่ายทุกครั้งก่อนกลับบ้าน เพื่อป้องกันบุคคลอื่นเข้ามาขโมยข้อมูล หรือกระทำการ มิชอบด้วย
4. การใช้เครือข่ายส่วนบุคคลเสมือน (Virtual Private Network) เมื่อมีความจำเป็นต้องเข้าถึงเครือข่าย ขององค์กรจากภายนอก ส่วนใหญ่จะนิยมใช้บริการ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เปิดให้บริการ ณ สถานที่นั้น ซึ่งจะมีความปลอดภัยต่ำ และง่ายต่อการ ถูกแฮกข้อมูล เพื่อความปลอดภัยจึงควรติดตั้ง VPN ภายในองค์กร หรือเช่าใช้บริการ SSL VPN จากผู้ให้บริการ ซึ่งจะทำให้การเข้าถึงข้อมูลขององค์กร เป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย จากทุกที่ทุกเวลา
5. การวางแผนและทดสอบอย่างรอบคอบในการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้งาน ก่อนนำเทคโนโลยีหรือระบบใหม่มาใช้งาน จะต้องทำการทดสอบการทำงาน วิเคราะห์ใน หลากหลายแง่มุม ทั้งด้านที่เป็นจุดแข็ง จุดอ่อน หรือข้อจำกัด จนมั่นใจว่าฮาร์ดแวร์ หรือซอฟต์ แวร์ต่าง ๆ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่องค์กรต้องการ รวมถึง จะต้องมองไปใน อนาคตว่า ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์เหล่านั้น สามารถรองรับการใช้งาน ในอนาคตเมื่อธุรกิจ เติบโตขึ้นด้วยหรือไม่

ถึงแม้จะเป็นเพียงบริษัทเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ควรมองข้ามการวางระบบไอทีที่ดี เพราะสิ่งหนึ่งที่จะทำให้
ธุรกิจดำเนินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ได้แก่การวางระบบไอทีที่เข้มแข็งนั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วิทยาศาสตร์น่ารู้ 1

ทำไมพริกจึงเผ็ด ?
ความเผ็ดร้อนเกิดจากกรดชนิดหนึ่งเรียกว่าแคปไซซิน ซึ่งอยู่ที่ผิวด้านในของ
ฝักพริก หลายคนเข้าใจผิดว่าเม็ดพริกก็เผ็ดเหมือนกัน ทั้งที่ตามจริงไม่มีแคปไซซินเลย อย่างไรก็ตาม
กรดชนิดนี้กระจายอยู่ในยวงที่มีเม็ดพริกติดอยู่ เมื่อแกะเม็ดพริกออก เนื้อพริกในส่วนนี้ก็จะติดมาด้วย
และทำให้เผ็ดน้อยลง แม้แคปไซซินจะให้รสเผ็ดถึงใจก็ตาม พริกแต่ละเม็ดมีกรดชนิดนี้อยู่เพียง
ร้อยละ 0.1 เท่านั้น

บาดแผลหายได้อย่างไร ?
ขณะที่เรากำลังใช้มีด บางครั้งอาจจะเผลอทำมีดบาดตัวเอง แต่ทันทีทันใดนั้น ร่างกายของ
เราก็จะเริ่มซ่อมแซมบาดแผลที่เกิดขึ้นทันที สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ภายในเวลาไม่กี่นาที ปลายเส้นเลือดที่ขาดก็ถูกหยุดด้วย เกล็ดเลือด ( platelets ) และเส้นใย
โปรตีนที่เรียกว่า ไฟบริน ( fibrin ) เลือดที่ออกมาอยู่ในแผลก็จะแข็งตัวกลายเป็นสะเก็ดคลุมแผลอยู่
ร่างกายเริ่มส่งเลือดมายังบริเวณบาดแผลเพิ่มขึ้น เม็ดเลือดขาวที่มากับกระแสเลือดก็จะคอยฆ่าพวกเชื้อโรค
ที่บุกรุกเข้ามา คอยจับทำลายพวกเซลล์ที่ตายแล้วและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ขณะเดียวกัน เซลล์ชั้นนอกสุด
ของผิวหนัง ( epidermal cell ) ก็จะแบ่งตัว และเคลื่อนที่จากขอบแผลทั้งสองข้างเข้ามาบรรจบกันใหม่
ตรงกลายภายใต้สะเก็ดเลือด บาดแผลก็จะถูกคลุมด้วยชั้นเซลล์เหมือนเดิม เส้นเลือดในบริเวณนั้นจะเจริญ
แทงเข้ามายังบาดแผลเพื่อนำออกซิเจนและอาหารมาเลี้ยง
เซลล์ที่เรียกว่า ไฟโบรบลาสต์ ( fibroblast ) จะแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างเนื้อเยื่อมาเสริม
บริเวณบาดแผลให้เต็มโดยการผลิต คอลลาเจน ( collagen ) ซึ่งเป็นเส้นใยที่มีความเหนียว ทำให้บาดแผล
มีความแข็งแรง ขณะเดียวกันไฟโบรบลาสต์จะหดตัว ทำให้บาดแผลสองข้างชิดกันเข้ามามากขึ้น
ปลายเส้นประสาทที่ขาดก็จะค่อย ๆ สอดเข้าไปในแผลเพื่อให้ความรู้สึกบางส่วนของบริเวณนั้นกลับคืนมา เส้นเลือดต่าง ๆ ก็จะงอกเข้าหากันจนประสานกันเป็นร่างแหอยู่ภายในบาดแผล
ในที่สุด สะเก็ดเลือดบนแผลก็หลุดออกไป ผิวหนังก็กลับมาประสานกันเหมือนเดิม เนื้อเยื่อ
ภายใต้นั้นก็จะหนาแน่นไปด้วยไฟโบรบลาสต์และเส้นใยคอลลาเจน ซึ่งจะค่อย ๆ เรียงตัวให้อยู่ในแนวที่รับ
ความตึงเครียดได้ดีที่สุด เพื่อให้บาดแผลที่หายแล้ว มีความแข็งแรงเหมือนเดิม

ทำไมคนเราจึงดื่มน้ำทะเลไม่ได้ ?
นกทะเลและสัตว์เลื้อยคลานหลายชนิดจะมีต่อมพิเศษสำหรับถ่ายเกลือออกจากร่างกายโดยเฉพาะ
นกนางนวลสามารถดื่มน้ำทะเลได้ถึง 10% ของน้ำหนักตัว และสามารถกำจัดเกลือที่มีมากเกินไปได้ภายใน
เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้ามนุษย์จำเป็นต้องดื่มน้ำทะเลในสัดส่วนเท่านกคือ 2 แกลลอน
( 7.56 ลิตร )น้ำจะถูกดูดออกจากร่างกายเนื่องจากความพยายามที่จะกำจัดเกลือที่มีมากเกินไปออกจาก
ร่างกายไม่มีสัตว์ชนิดใดมีเกลือสะสมอยู่ในร่างกายได้เกินร้อยละ 0.9 เกลือที่มีมากเกินกว่าปริมาณนี้ จะถูก
ขับออกมากับปัสสาวะ ไตของมนุษย์ไม่สามารถกำจัดเกลือที่มีอยู่ในปัสสาวะได้เกินกว่าร้อยละ 2.2 ดังนั้น
มนุษย์จึงไม่สามารถดื่มน้ำทะเลซึ่งมีเกลือผสมอยู่ถึงร้อยละ 3.5 ได้ ม้าสามารถกำจัดเกลือที่มีอยู่ในปัสสาวะได้เพียงร้อยละ 1.5 เนื่องจากไตไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น ม้าจึงไม่สามารถดื่มน้ำกร่อยซึ่งมนุษย์สามารถ
บริโภคได้

ความหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
ความหมาย
เพื่อที่จะให้เข้าใจความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา เราคงจะต้อง
ทำความเข้าใจกับคำต่างๆ ที่ประกอบเป็นคำนี้ อันได้แก่ เทคโนโลยี สาร และสนเทศ
เทคโนโลยีมีความหมายถึง การประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ต่องานปฏิบัติทั้งหลาย
เพื่อให้งานนั้นมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ
สารสนเทศ อ่านว่า สาระ-สน-เทศสาร หรือ สาระ เป็นคำประกอบหน้าคำ แปลว่า สำคัญ
สนเทศ หมายถึง คำสั่ง ข่าวสาร ใบบอก
สารสนเทศ จึงหมายถึงข่าวสารที่สำคัญ เป็นระบบข่าวสารที่กำหนดขึ้น และจัดทำขึ้นภายในองค์การต่างๆตามความต้องการของเจ้าของหรือผู้บริหารองค์การนั้นๆ
สารสนเทศ ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Information สำหรับคำว่า Information นั้น พจนานุกรมเวบสเตอร์ ให้ความหมายไว้ว่า ความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าสารสนเทศ เป็นความรู้และข่าวสารที่สำคัญที่มีลักษณะพิเศษ ทั้งในด้านการได้มา
และประโยชน์ในการนำไปใช้ปฏิบัติ จึงได้มีการประมวลความหมายของสารสนเทศไว้ใกล้เคียงกัน ดังนี้
สารสนเทศ หมายถึงข้อมูลทั้งด้านปริมาณและด้านคุณภาพที่ประมวลจัดหมวดหมู่ เปรียบเทียบ
และวิเคราะห์แล้วสามารถนำมาใช้ได้ หรือนำมาประกอบการพิจารณาได้สะดวกกว่าและง่ายกว่า
สารสนเทศ คือข้อมูลที่ได้รับการประมวลให้อยู่ในรูปแบบที่มีความหมายต่อผู้รับ และมีทั้งคุณค่า
อันแท้จริง หรือที่คาดการณ์ว่าจะมีสำหรับการดำเนินงานหรือการตัดสินใจในปัจจุบันและอนาคต
สารสนเทศ หมายถึง ข่าวสารที่ได้จากการนำข้อมูลดิบมาคำนวณทางสถิติ
หรือประมวลผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งข่าวสารที่ได้ออกมานั้นจะอยู่ในรูปที่สามารถนำมาใช้งานได้ทันที
หากพิจารณาจากความหมายของสารสนเทศที่กล่าวมาแล้วนี้ จะเห็นว่าสารสนเทศมี
คุณลักษณะที่สำคัญอยู่ 3 ประการ คือ
1. เป็นข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว
2. เป็นรูปแบบที่มีประโยชน์ นำไปใช้งานได้
3. มีคุณค่าสำหรับใช้ในการดำเนินงานและการตัดสินใจ

อ้างอิง http://learners.in.th/blog/mooddang/256432

ประวัติ




นางสาวณัทลาวัลย์ สารสุข

ครูโรงเรียนบ้านเนินพลับหวาน

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต 3